วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

สมัครงานภาษาอังกฤษ เรซูเม่คืออะไร

เรซูเม่ (Resume) นั้น มีความหมายว่า ประวัติโดยย่อ หรือ ประวัติส่วนตัวสั้นๆนั่นเอง โดยเนื้อหาใน Resume นั้นจะเน้นแสดงความเป็นมา และ คุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งอธิบายถึงสิ่งต่างๆ ดังนี้ - คุณเป็นใคร มาจากไหน? - คุณมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด? - คุณจบการศึกษาด้านและระดับไหนบ้าง? - คุณมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่สมัครหรือไม่?

วิธีการในการเขียนประวัติย่อนั้น จะต้องเขียนข้อมูลให้ "กระชับ และ ชัดเจน" หรือ พูดง่ายๆก็คือ "สั้นแต่ได้ใจความ" นั่นเอง และนอกจากนั้นแล้ว เราควรที่จะจัดวางรูปแบบในการเขียน Resume ให้อ่านแล้วเข้าใจง่าย และ ดูสบายตาอีกด้วย

สำหรับเนื้อหาของ Resume นั้น จะต้องมีความสอดคล้องกับความเป็นตัวเราจริงๆ ไม่ใส่ข้อความเท็จใดๆทั้งสิ้น เนื่องจาก เราจะต้องอธิบายข้อมูลประวัติย่อที่เรากล่าวไว้ให้กระจ่างในวันสัมภาษณ์ ซึ่งผู้สัมภาษณ์ก็จะนำเอาเนื้อหาที่อยู่ใน Resume เหล่านี้มาตั้งคำถามกับผู้สมัคร และให้อธิบายถึงเนื้อหาที่เราเขียนไว้ในประวัติย่อนั้นๆ


Resume ที่ดีควรประกอบด้วยอะไรบ้าง? หลายคนคงมีคำถามนี้อยู่ในใจ เนื่องจากไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงส่วนไหน และจะเขียนอย่างไร วันนี้เรามีข้อมูลดีๆมาแบ่งปันสำหรับทุกคนที่ต้องการเขียน Resume ออกมาให้ถูกหลักกัน

Resume ที่ดีควรประกอบด้วยห้าส่วนหลักด้วยกัน อันได้แก่

1. Heading (ส่วนหัว)
ซึ่งประกอบด้วย

1.1 Position / Objective (ตำแหน่ง / เป้าหมาย การสมัครงาน)

1.2 Address (ที่อยู่ของผู้สมัคร)

1.3 Contact Number (หมายเลขติดต่อของผู้สมัคร)

1.4 Name (ชื่อของผู้สมัคร)

2. Personal Information (ข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัคร) ซึ่งอาจ ประกอบด้วย

2.1 Age (อายุ)

2.2 Height (ส่วนสูง)

2.3 Weight (น้ำหนัก)

2.4 Health (สุขภาพ) เช่น Excellent, Good, Bad

2.5 Address (ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้)

2.6 Date of Birth (วัน/เดือน/ปีเกิด)

2.7 Sex (เพศ) Male หรือ Female
2.8 Marital Status (สถานะทางครอบครัว)
   - Single โสด
   - Divorced หย่า
   - Separated แยกทางกัน
   - Married แต่งงานแล้ว
   - Widowed เป็นหม้าย
2.9 Nationality (เชื้อชาติ) เช่น Thai, Chinese, Japanese

2.10 Religion (ศาสนา) เช่น Buddhism, Christianity, Islam

3. Education (ประวัติการศึกษา)

ประวัติการ ศึกษานั้นควรที่จะเรียงลำดับจากวุฒิสูงสุดไปยังวุฒิที่ต่ำกว่า ซึ่งควรที่จะเรียงดังนี้

1. วุฒิการศึกษา
2. Major Subject (สาขาที่จบหรือวิชาเอก)
3. University, Institution, School (สถาบันการศึกษา)
4. Date of Graduation / Duration (ปีที่จบการศึกษา หรือ ช่วงระยะเวลาที่เรียน)

4. Job Experience (ประสบการณ์การทำงาน)

ประสบการณ์ทำงานถือเป็นส่วนที่สำคัญมาก โดยเฉพาะคนที่เคยทำงาน หรือ มีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งจะเป็นส่วนที่เป็นประโยชน์อย่างมากหากกรรมการนำประสบการณ์เหล่านี้ไป เปรียบเทียบกับผู้สมัครอื่นๆ โดยเราสามารถระบุประสบการณ์ทำงาน (ทั้ง Full Time และ Part Time) ฝึกงาน ฝึกอบรม ลงใน Resume ส่วนนี้ได้ และหากเรามีประสบการณ์มากมาย ให้เลือกระบุเพียงประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่กำลังจะสมัครเท่า นั้น หรือ หากประสบการณ์ทั้งหมดนั้นมีความเกี่ยวข้องกันหมด ให้ระบุไปให้หมด เนื่องจากส่วนนี้เป็นส่วนที่ถือว่าสำคัญที่สุดใน Resume

สำหรับวิธีการเรียงลำดับประสบการณ์นั้น ผู้สมัครควรเรียงจากประสบการณ์การทำงานล่าสุดไปยังอดีต
1. Year/Duration (ปีหรือช่วงเวลาที่ทำงาน)
2. Position (ตำแหน่งที่เคยทำ หรือกำลังทำ)
3. Company (ชื่อบริษัท และที่อยู่ของบริษัท)

5. References (บุคคลอ้างอิง)

ส่วนอ้างอิงนี้เป็นส่วนที่ผู้สมัครระบุถึงชื่อ ตำแหน่ง และเบอร์ติดต่อ ของบุคคลอ้างอิงที่สามารถรับรองความสามารถและความประพฤติของผู้สมัครได้ โดยบุคคลอ้างอิงนั้นควรจะเป็น บุคคลที่มีความอาวุโส และมีตำแหน่งการงานที่น่านับถือ

1. Name (ชื่อของบุคคลอ้างอิง)
2. Position (ตำแหน่งของบุคคลอ้างอิง)
3. Company (บริษัทหรือหน่วยงานที่บุคคลอ้างอิงนั้นทำงานอยู่ พร้อมระบุที่อยู่ของสถานที่นั้นๆ)
4. Contact Number (หมายเลขติดต่อของบุคคลอ้างอิง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น